วิธีป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากไวรัสคอมพิวเตอร์
1. ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส และต้องทำการปรับปรุงฐานข้อมูลไวรัสให้ทันสมัยอยู่เสมอ
2. ปิดการแชร์ไฟล์และโฟลเดอร์ในเครื่อง
3. ปิด Auto Run ใน Windows เพื่อป้องกันไวรัสผ่านทาง Handy Drive วิธีการปิด Auto Run
4. สร้างโฟลเดอร์ Autorun.INF ใน Handy Drive เพื่อหลอกไวรัส วิธีการสร้าง
5. สแกนไวรัสในไดร์ฟ USB ก่อนเปิดใช้งานทุกครั้ง
6. ทำการสำรองข้อมูลในเครื่องอยู่เสมอโดยเฉพาะที่ไดร์ฟ C:
7. สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีป้องกันตัวเองจากไวรัสได้ที่นี่-->> วิธีป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากไวรัสคอมพิวเตอร์
เอกสารอ้างอิง http://www.thaicert.nectec.or.th/
http://share.psu.ac.th/, http://www.chana.egat.co.th
วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2552
IT Manager Job Description
ลักษณะงานผู้จัดการแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT manager)
บทบาท หน้าที่ และความสามารถประจำตำแหน่ง (Role-Specific Competencies)
ด้านเครือข่าย (Networking)
ด้านการสื่อสารในหน่วยงาน
ความเป็นผู้นำ (Leadership)
การทำงานเป็นทีม (Teamwork)
บทบาท หน้าที่ และความสามารถประจำตำแหน่ง (Role-Specific Competencies)
ด้านเครือข่าย (Networking)
- วางแผนการติดตั้งและปรับปรุงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
- จัดให้มีระบบรักษาความปลอดภัยในเครือข่ายตามนโยบายของบริษัท
- ดูแล บำรุงรักษาและบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่าย
- ดูแลและบริหารจัดการการเชื่อมต่อโครงข่ายคอมพิวเตอร์ระยะไกล (WAN)
- บริหารจัดการการใช้งานระบบโทรศัพท์ในองค์กรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
- ดูแล บำรุงรักษาระบบโทรศัพท์ให้พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา
- ดูแลและบริหารจัดการบำรุงรักษาระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งซอฟท์แวร์/ฮาร์ดแวร์
- ส่งเสริมและสนับสนุนการฝึกอบรมทางด้านคอมพิวเตอร์แก่ผู้ใช้งาน
- ดูแลการแก้ปัญหา การสำรองข้อมูล การกู้คืนระบบ และจัดหาผู้เชี่ยวชาญมาสนับสนุนเมื่อมีความจำเป็น
- ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย
- ตอบสนองความต้องการใช้งานระบบให้ความช่วยเหลือที่เพิ่มขึ้น
- ช่วยแก้ไขปัญหาและให้คำปรึกษาการใช้งานคอมพิวเตอร์แก่ผู้ใช้งานให้ทันเวลาโดยมิให้งานเสียหาย
- บริหารจัดการการจัดซื้อซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมทั้งสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ขาย
- จัดให้มีทรัพยากรคอมพิวเตอร์ใช้งานในหน่วยงานอย่างเพียงพอ
ด้านการสื่อสารในหน่วยงาน
- จัดให้มีการประชุมในทีมงานอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฎิบัติงาน
- แจ้งข่าวความเคลื่อนไหวในองค์กรทั้งเรื่องทั่วไปและเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศให้แก่ทีมงาน
- นำเสนอข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมการปฎิบัติงานให้หน่วยงานอื่นได้รับรู้
- นำเสนอความก้าวหน้าในวงการเทคโนโลยีสารสนเทศแก่องค์กรอย่างสม่ำเสมอ
- มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงในงานที่รับผิดชอบ
- สนับสนุนงานด้านไอทีตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้บริหาร
- รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์แนวโน้มกฎหมายทางด้านไอที เพื่อกำหนดเป็นมาตรฐานสำหรับใช้ในองค์กรให้สอดคล้องกับกฎหมายดังกล่าว
ความเป็นผู้นำ (Leadership)
การทำงานเป็นทีม (Teamwork)
TQM with Cloud Computing

บทนำ
ระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ (Cloud Computing) เป็นแนวคิดสำหรับแพลทฟอร์มของระบบคอมพิวเตอร์ในยุคหน้า เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ใช้ในการลดภาระด้านการลงทุนในเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology: IT) ทั้งการใช้งานในระดับองค์กรธุรกิจ (Corporate Users) และ ผู้ใช้ระดับส่วนบุคคล (Individual Users) โดยเป็นหลักการนำทรัพยากรของระบบไอที ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์มาแบ่งปันในรูปแบบการให้บริการ (Software As A Services: saas) ในระดับการประมวลผลผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง หรือติดตั้งซอฟต์แวร์ระบบ ตลอดจนซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นจำนวนมาก ๆ เพื่อการทำงานที่ซับซ้อน แต่สามารถใช้บริการประมวลผล และแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ จากผู้ให้บริการระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ และชำระค่าบริการตามอัตราการใช้งานที่เกิดขึ้นทั้งนี้กลุ่มเมฆเปรียบเสมือน เครือข่ายอินเตอร์เน็ต กลุ่มเมฆที่ปกคลุมท้องฟ้ามีการเชื่อมโยงกันเป็นผืนเมฆเดียวกันห่อหุ้มโลกใบนี้ไว้ เช่นเดียวกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่มีการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากหลายเครื่องจากทั่วทุกมุมโลกเป็นเครือข่ายใยแมงมุมขนาดใหญ่ เปรียบเสมือนระบบเสมือนจริง (Virtualization) ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ทำหน้าที่เพียงติดต่อส่วนของผู้ใช้ (User Interface) เพื่อแสดงผลและรับคำสั่ง และสื่อสารไปยังบริการต่าง ๆ บนกลุ่มเมฆคอมพิวเตอร์ เพื่อการจัดเก็บและเรียกใช้ข้อมูล ประมวลผล และ ใช้โปรแกรมประยุกต์ (Application Programs) ที่หลากหลาย ในสภาพแวดล้อมของระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ การจัดการงานหนึ่งชิ้น ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์โปรแกรมแอพพลิเคชั่น เพียงแต่ต้องมีอุปกรณ์ (Device) ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์แบบ VOIP โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ PDA ก็จะสามารถใช้บริการซอฟต์แวร์จากผู้ให้บริการผ่านเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่องบนเครือข่าย ในรูปแบบการประมวลผลแบบกระจาย (Distributed Computing) เช่นเริ่มต้นจากการดึงข้อมูล (Data) อาจถูกเรียกจากดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในประเทศ จากนั้นข้อมูลชุดดังกล่าวจะถูกส่งไปประมวลผลด้วยซอฟต์แวร์บนเซิร์ฟเวอร์อีกตัวหนึ่งในต่างประเทศ หมายความว่ากระบวนการทำงานใด ๆ ก็ตามจะเริ่มรับคำสั่ง (Input) จากผู้ใช้ การประมวลผลที่ซับซ้อนมาก ๆ อาจเกิดบนเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 1 เครื่องบนอินเตอร์เน็ต จากนั้นจึงนำผลที่ได้ส่งกลับไปเป็นผลลัพท์ (Output) บนหน้าจอของผู้ใช้ อุปกรณ์ของผู้ใช้จึงทำหน้าที่เป็นเพียงเทอร์มินัลแบบกราฟฟิกที่ติดต่อผู้ใช้ผ่านเว็บบราว์เซอร์
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้
บริการแอพพลิเคชั่นกลุ่มเมฆ (Cloud Application)เป็นแอพพลิเคชั่นที่เปิดให้บริการบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องติดตั้ง หรือรันแอพพลิเคชั่นที่เครื่องคอมพิวเตอร์ แต่เป็นการใช้บริการรันแอพพลิเคชั่นผ่านเครือข่าย จึงไม่ต้องมีภาระในการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ การดูแลในระดับปฏิบัติการ หรือระบบสนับสนุน ตัวอย่างเช่น Gmail, Hotmail, Google Docsบริการจัดเก็บข้อมูลกลุ่มเมฆ (Cloud Storage)แนวคิดศูนย์ข้อมูลแบบ Super Data Center โดยนำความสามารถด้านหน่วยความจำไปให้บริการบนเครือข่าย รวมทั้งบริการด้านฐานข้อมูล (Database)
ระบบประมวลผลกลุ่มเมฆกับการพัฒนาคุณภาพงาน
เราได้รู้จักกับระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ รวมทั้งการประยุกต์ใช้งานกันแล้ว ต่อไปมาดูกันว่าจะสามารถนำระบบนี้มาใช้กับสายงานผลิตไฟฟ้าของเรากันอย่างไรได้บ้างเป็นที่ทราบกันดีว่าโครงข่ายคอมพิวเตอร์ของ กฟผ. นั้น เชื่อมโยงถึงกันทั่วประเทศ ที่เราเรียกกันว่าโครงข่ายคอมพิวเตอร์ระยะไกล (WAN: Wide Area Network) หรือจะเรียกว่าเป็นเครือข่ายอินทราเน็ต (Intranet) ซึ่งเปรียบได้กับกลุ่มเมฆขนาดใหญ่ในองค์กร โดยแต่ละ โรงไฟฟ้า เขื่อน และสำนักงานก็จะมีคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server) และอุปกรณ์เก็บข้อมูล (Storage) หน่วยงานละหลาย ๆ เครื่อง รวมทั้งระบบงานสารสนเทศต่าง ๆ ที่หน่วยงานจัดซื้อจัดหามาหรือพัฒนาขึ้นมาใช้เอง เช่น ระบบจัดการองค์ความรู้ (KM) ระบบแจ้งซ่อมออนไลน์ ระบบจองห้องประชุม เป็นต้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วแต่ละหน่วยงานจะมีการใช้งานฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ยังไม่เต็มประสิทธิภาพ หากเรานำส่วนเกินที่เหลือใช้ดังกล่าวมารวมกันโดยใช้เทคโนโลยีระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ และแบ่งปันกันใช้งานก็จะเกิดการพัฒนาคุณภาพงานกับองค์กรในภาพรวมโดยปริยาย
บทสรุป
เมื่อนำระบบประมวลผลกลุ่มเมฆมาใช้ในสายงาน ตามภาพประกอบที่ 1 จะเห็นว่าเราสามารถแบ่งปันทรัพยากรระบบไอทีในสายงาน (IT Pool) ได้ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ในรูปแบบการให้บริการแอพพลิเคชั่นกลุ่มเมฆ และบริการจัดเก็บข้อมูลกลุ่มเมฆ โดยประมวลผลผ่านเครือข่ายอินทราเน็ตของ กฟผ. ทำให้ประหยัดงบประมาณในการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งมีราคาสูงมาก รวมทั้งมีการใช้ทรัพยากรไอทีอย่างมีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย (Cost) ในการบริหารซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพงานโดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อ “มุ่งมั่นสร้างความเป็นเลิศด้านการผลิตไฟฟ้า สู่รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (TQA)” ต่อไป
เอกสารอ้างอิง
http://www.vcharkarn.com/vblog/38378/ ผู้เขียน Jongjin
http://en.wikipedia.org/wiki/Cloud_computing
http://aws.amazon.com/ec2/
http://docs.google.com/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)